

อาการตาแห้ง ปัญหาสุขภาพตาเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
เชื่อว่าคนทำงาน หรือ ใครก็ตามที่ใช้เวลาชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์ หรือ สาวๆ ที่เพิ่มความสวยให้ดวงตาด้วยคอนแทคเลนส์ จะคุ้นเคยกับ อาการตาแห้ง และพกน้ำตาเทียมติดกระเป๋าอยู่เสมอเพราะความเคยชินหรือได้ยินจากคนอื่นมาแล้วทำตามอีกที โดยที่ไม่รู้ว่า จริงๆ แล้ว อาการเหล่านี้ถ้าเรามองข้ามไป ปล่อยทิ้งไว้ ไม่รักษาอาจเสี่ยงต่อการมองเห็นไม่ชัดและอันตรายกว่าที่เราคิด วันนี้ทีมงาน RS Mall ได้รวบรวมสาเหตุและอาการของอาการตาแห้ง มาฝาก
ตาแห้ง มีสาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง
อาการตาแห้ง คือ โรคตาที่เกิดจากระบบต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ ทำให้ต่อมน้ำตาผลิตน้ำตาได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา แสบตา ตาแห้ง เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วอาการตาแห้ง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ
1. การใช้ยาบางประเภท ที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงมีผลทำให้การทำงานของต่อมน้ำตาเกิดปัญหา และตาแห้งในที่สุด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาแก้แพ้ ยาต้านซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิตบางชนิด เป็นต้น
2. ฮอร์โมนต่างๆ ที่เปลี่ยน ส่วนใหญ่จะพบในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากร่างกายผลิตน้ำตาได้น้อยลง
3. เป็นภูมิแพ้ที่ตา หนังตา หรือเยื่อตาอักเสบเรื้อรัง
4. การเล่นสมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งแสงจากสิ่งเหล่านี้จะมาทำร้ายดวงตาของเรา และการจ้องนานๆ จะทำให้เรากระพริบตาน้อยลง ส่งผลให้ต่อมน้ำตาเกิดการทำงานผิดปกติ ทำให้น้ำตาไม่เพียงพอและเกิดปัญหาตาแห้งได้
5. การใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากคอนแทคเลนส์จะดึงน้ำตาเพื่อให้ตัวคอนแทคเลนส์ใสตลอดเวลา หรือใช้คอนแทคเลนส์ไม่มีคุณภาพ
6. การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือ หลับไม่สนิท ส่งผลให้การสร้างน้ำตาลดลง
7. สิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น เจอสภาพอากาศแห้ง อยู่ในห้องแอร์มีอุณหภูมิเย็นแห้ง เจอลมหรือแสงแดดบ่อยๆ เป็นต้น ซึ่งสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะทำให้น้ำตาระเหยได้ง่าย
จะรู้ได้อย่างไรว่า นี้แหละเรียกว่า อาการตาแห้ง
1. จะรู้สึกฝืด ระคายเคือง คล้ายมีเศษผงเข้าตา แสบร้อนที่ตา
2. บางรายมีขี้ตาเป็นเมือกเหนียวยืดเป็นเส้น
3. รู้สึกแสบ ระคายเคือง มีน้ำตาไหล เมื่ออาการแสบหายไปน้ำตาก็จะหยุดไหล พอตาเริ่มแห้ง น้ำตาก็จะไหลออกมา สลับกันไปเป็นช่วงๆ
วิธีป้องกัน ดูแลรักษาอาการตาแห้ง
ตาแห้งมีวิธีป้องกันและรักษาแบบธรรมชาติด้วยตัวเอง หรือจะไปรักษาด้วยการพบจักษุแพทย์ ก็ได้ เช่น
1. กระพริบตาถี่ๆ : ถ้าหากเราจ้องหรือเพ่งมองสิ่งใดเป็นเวลานาน เช่น ทำงานกับคอมพิวเตอร์ ควรหาเวลาพักสายตาโดยการหลับตา กระพริบตาทุกๆ 10-15 นาที หรือ ลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถ ประมาณ 2-3 นาที ในทุกครึ่งชั่วโมง
2. หลีกเลี่ยงการปะทะกับแสงแดดและลมโดยตรง ด้วยการสวมแว่นกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง ไม่นั่งโดยที่มีลมพัดหรือลมเป่ามาที่ตา
3. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ใช้กรอบแว่นตาชนิดพิเศษ ที่มีแผ่นคลุมปิดกันลมจากด้านข้างของแว่นตา
4. ใช้กรอบแว่นตาชนิดพิเศษ ที่มีแผ่นคลุมปิดกันลมจากด้านข้างของแว่นตา
5. ใส่คอนแทคเลนส์ไม่เกิน 8 ชั่วโมง
6. ใช้น้ำตาเทียม เพื่อหล่อลื่นและให้ความชุ่มชื้นกับดวงตา โดยการรักษาด้วยน้ำตาเทียม จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการตาแห้ง
7. อุดรูระบายน้ำตา สำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งรุนแรง เพื่อขังน้ำตาที่มีอยู่ให้หล่อเลี้ยงตาได้นานขึ้น
ทานอาหารเสริม หรือวิตามินบำรุงสายตา
อีกหนึ่งทางเลือกของการบำรุงสายตาสำหรับผู้ที่ต้องใช้สายตาอย่างหนัก จนตาล้า สายตาพล่ามัว และมีอาการตาแห้ง ด้วยการทานอาหารเสริมวิตามินบำรุงสายตา สารสกัดจากธรรมชาติ ลดอาการตาแห้ง และช่วยปรับสมดุลความดันลูกตา รวมถุงช่วยป้องกันไม่ให้สายตามัว มองเห็นไม่ชัดในอนาคตได้
หรือหากคุณเป็นหนึ่งคนที่ยังไม่แน่ใจว่า จะเลือกซื้ออาหารเสริมช่วยบำรุงสายตา ยี่ห้อไหนดี คุณสามารถเลือกซื้อ อาหารเสริมบำรุงสายตา คุณภาพดี มีอย. รับประกัน พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษได้ที่ www.rsmall.com